10.14457/TU.the.2016.96วรัฏฐา หวังศิริเวชทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อร้านอาหารที่ทำการสื่อสารผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์การสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กไลน์อินสตาแกรมร้านอาหารเครือข่ายสังคมออนไลน์พฤติกรรมผู้บริโภคSocial network communicationFacebookLineInstagramปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารได้มีการพัฒนาไปอย่างก้าวไกล โดยเฉพาะเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยที่มีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปบวกกับการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ผู้ประกอบการหรือนักการตลาดจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่ารูปแบบการสื่อสารกับผู้บริโภคในอดีตนั้นจะมุ่งเน้นไปที่การสื่อสารแบบดั้งเดิมหรือการทำการตลาดผ่านทางออฟไลน์ อาทิ โฆษณาบนหนังสือนิตยสาร โฆษณาบนป้ายบิลบอร์ด เป็นต้น แต่ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการและนักการตลาดหลายรายให้ความสำคัญกับการทำสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้สามารถสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อร้านอาหารที่ทำการสื่อสารผ่านช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ 3 ประเภทได้แก่ เฟซบุ๊ก ไลน์ และอินสตาแกรม ซึ่งงานวิจัยจะศึกษาองค์ประกอบทั้งหมด 5 ด้าน คือ ด้านข้อมูลข่าวสารและประโยชน์ที่ได้รับ (Informativeness) ด้านความบันเทิง (Entertainment) ด้านความน่าเชื่อถือ (Credibility) ด้านการสร้างความรำคาญ (Irritation) และด้านการมีส่วนร่วม (Interactivity) โดยจะใช้วิธีการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 9 คน และวิเคราะห์ข้อมูลแบบตรวจสอบข้อมูลสามเส้าและนำเสนอในรูปแบบของการพรรณนาเชิงวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่าด้านข้อมูลข่าวสารและประโยชน์ที่ได้รับ ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีทัศนคติในเชิงบวกต่อข้อมูลข่าวสารที่ทางร้านใช้สื่อสาร หากผู้บริโภครับรู้ว่าข้อมูลนั้นมีประโยชน์ต่อตนเอง ด้านความบันเทิง ผู้บริโภคบางส่วนมีทัศนคติในเชิงบวกต่อข้อมูลที่มีความบันเทิงสอดแทรก หากข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่แปลกใหม่และสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของทางร้านอาหาร ด้านความน่าเชื่อถือ ผู้บริโภคมีทัศนคติในเชิงบวกต่อข้อมูลที่ได้รับจากทางร้านโดยตรง โดยชื่อเสียงของตราสินค้ามีผลต่อความเชื่อถือของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ด้านการสร้างความรำคาญ ผู้บริโภคที่รับการสื่อสารผ่านทางเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมจะสามารถรับข้อมูลในจำนวนที่มากกว่าผู้บริโภคที่รับข้อมูลผ่านทางไลน์ เนื่องจากผู้บริโภคที่ใช้เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมสามารถรับข้อมูลแบบผ่านตาได้โดยไม่มีการแจ้งเตือน ในทางกลับกันผู้บริโภคที่รับข้อมูลผ่านทางไลน์จะมีการแจ้งเตือนทุกครั้งที่ทางร้านส่งข้อความมา ซึ่งทำให้กลุ่มผู้บริโภคที่รับการสื่อสารผ่านทางไลน์เกิดความรู้สึกรำคาญได้ง่ายกว่ากลุ่มผู้บริโภคที่รับการสื่อสารผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทอื่น ด้านการมีส่วนร่วม กลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบการร่วมกิจกรรมชิงรางวัลจะมีทัศนคติในเชิงบวกต่อการสื่อสารที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม ในทางกลับกันกลุ่มผู้บริโภคไม่ชอบการร่วมสนุกหรือชิงรางวัลจะมีทัศนคติเฉยๆกับการสื่อสารประเภทนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ งานวิจัยฉบับนี้สามารถเป็นแนวทางสำหรับผู้ประกอบร้านอาหารและนักการตลาดนำไปประยุกต์ใช้ในการวางกลยุทธ์การสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นแนวทางสำหรับนักวิจัยหรือผู้ที่สนใจสามารถนำผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้และทำการวิจัยต่อยอดจากการวิจัยนี้ภิญรดา เมธารมณ์, ที่ปรึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์2559Dataset